Soft Power ไม่ใช่โจทย์ใหม่ของรัฐบาลไทยที่จะผลักดันการส่งออกสินค้าทางวัฒนธรรม อาทิ ข้าวเหนียวมะม่วง ที่เป็นของหวานของคนไทย และถือเป็นวัฒนธรรมทางอาหารที่แฝงอยู่ในสินค้านั้น ๆ โดยพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีนโยบายสนับสนุน Soft Power และอุตสาหกรรม สร้างสรรค์ของไทย ให้เป็นที่รู้จักทั่วโลก พร้อมแนะนำหน่วยงานรัฐทำงานร่วมกับภาคเอกชน สนับสนุน ตลอดห่วงโซ่อุตสาหกรรม ครอบคลุมทั้งผู้ผลิต ศิลปิน บุคคลกรเบื้องหลัง เพื่อผลักดันให้ Soft Power เกิดประโยชน์ ทางเศรษฐกิจ พร้อมชื่นชมความสำเร็จล่าสุดของศิลปินและเยาวชนไทย ทุกแขนง รวมไปถึงทีมงานและบุคลากรในอุตสาหกรรมบันเทิงของไทย ทั้งภาพยนตร์ และดนตรีที่ทำหน้าที่เป็นสะพานเชื่อมวัฒนธรรมไทยสู่สากล ส่งเสริม Soft Power ของไทยให้เป็นที่รู้จักทั่วโลก
ทั้งนี้ สองหน่วยงานหลักที่ร่วมผลักดันนโยบายสนับสนุน Soft Power ได้แก่ กระทรวงวัฒนธรรม และกระทรวงพาณิชย์ ดังนี้
1) กระทรวงวัฒนธรรม มุ่งส่งเสริมวัฒนธรรม 5 F ที่เป็น Soft Power ของไทย ให้กลายเป็นสินค้าส่งออกทางวัฒนธรรมสำคัญของไทย ได้แก่
1. อาหาร (Food)
2. ภาพยนตร์และวีดิทัศน์ (Film)
3. การออกแบบแฟชั่นไทย (Fashion)
4. ศิลปะการป้องกันตัวแบบไทย (Fighting)
5. เทศกาลประเพณีไทย (Festival)
2) กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศตั้งเป้าหมายผลักดันการส่งออกใน 4 กลุ่มสินค้าเกี่ยวข้อง ได้แก่ อาหาร ดิจิทัลคอนเทนต์ สุขภาพความงาม และสินค้าสร้างสรรค์อัตลักษณ์ไทย ผ่าน 4 แนวทางหลัก ได้แก่
1. บ่มเพาะผู้ประกอบการยุคใหม่ให้มี Mindset ด้าน Soft Power
2. พัฒนาสินค้าสร้างสรรค์อัตลักษณ์ไทย
3. ขยายตลาดสินค้าอาหารไทย อุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนต์และธุรกิจบริการ Wellness Medical Service (WMS) และ
4. ประชาสัมพันธ์และสร้างความเชื่อมั่นให้กับแบรนด์ประเทศไทย โดยในปี 2565 มีโครงการสนับสนุนทั้งสิ้น 32 โครงการ
ทั้งนี้ ด้วยเอกลักษณ์ - วัฒนธรรมไทย เมื่อผนวกกับพลังและศักยภาพอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ของไทย ที่ประกอบด้วยศิลปินไทยที่มีความสามารถ ทีมงานบุคลากรเบื้องหลังที่มีทักษะและเชี่ยวชาญ และการสนับสนุน ของภาครัฐ จะเป็นการสร้างโอกาสและช่องทางใหม่ๆ ผลักดันอุตสาหกรรมสร้างสรรค์และ Soft Power กลายเป็นสินค้าทางส่งออกทางวัฒนธรรมสำคัญของไทย นำรายได้เข้าประเทศและขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้สอดคล้องกับนโยบายของนายกรัฐมนตรีได้
สำหรับผลงาน Soft Power ของไทยที่ถึงเป็นหนึ่งความสำเร็จ คือโครงการนำร่องการแข่งขันกีฬาเจ็ตสกี ที่ได้ยกระดับเป็นการแข่งขันทัวร์นาเม้นท์เจ็ตสกีอันดับที่ 1 ของโลก WPG#1 World Series เป็นลิขสิทธิ์ แบรนด์ไทย เติบโตครอบคลุมทั้งทวีปยุโรป และทวีปอเมริกา โดยในปี 62 ได้มีการประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ความสวยงามของประเทศไทย สู่เครือข่ายแฟนกีฬานับพันล้านคน 54 ชาติ 20 ภาษา มีนักกีฬาและทีมนานาชาติเข้าร่วมจำนวนกว่า 3,000 คน และสร้างเม็ดเงินทางเศรษฐกิจได้กว่า 700 ล้านบาท
ในปัจจุบันโซเชียลมีเดียมีบทบาทอย่างมากที่จะทำให้ Soft Power ประสบผลสำเร็จ อย่างปรากฏการณ์ มิลลิ ‘ข้าวเหนียวมะม่วง-mango sticky rice’ ที่ถูกค้นหาผ่าน google ยอดเพิ่มสูงขึ้นตั้งแต่วันที่ 16 เมษายน จนถึงปัจจุบัน และในปัจจุบันยังพบว่ามีการค้นหาอยู่ โดยจัดลำดับได้ 5 ประเทศ ได้แก่
1. ไทย
2. ลาว
3. สิงคโปร์
4. ฟิลิปปินส์
5. นิวซีแลนด์
จากกระแสดังกล่าวส่งผลให้มีผู้บริโภคข้าวเหนียวมะม่วงเพิ่มมากขึ้น และชาวสวนมะม่วงซึ่งเป็นต้นทางของผลผลิตได้ประโยชน์ ในการส่งออกแม้จะเป็นช่วงปลายฤดูของผลผลิตแล้วก็ตาม