ครม.อนุมัติงบกลางอุดหนุนเด็กแรกเกิด

                                                                                              

          ครม. มีมติอนุมัติงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นในการจ่ายเงินงบอุดหนุนเฉพาะกิจ โครงการเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 จำนวน 998.442 ล้านบาท ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เพื่อให้การจ่ายเงินอุดหนุนสำหรับการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด จำนวน 2,254,534 คน ในเดือนกันยายน 2566 เป็นไปอย่างต่อเนื่อง
โดยความจำเป็นที่ขออนุมัติงบกลางฯ ในครั้งนี้ เนื่องจากผู้มีสิทธิได้รับเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2565 – สิงหาคม 2566 มีจำนวนเกินกว่าที่ประมาณการณ์ไว้ ทำให้งบประมาณปี 2566
ได้รับจัดสรรไม่เพียงพอต่อการเบิกจ่ายให้กับกลุ่มเป้าหมายที่มีสิทธิในเดือนกันยายน 2566 ทางกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จึงจำเป็นต้องขออนุมัติงบกลางดังกล่าว โดยขั้นตอนต่อไปสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีจะส่งให้สำนักงาน กกต. พิจารณาต่อไป

โครงการเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด
    กรมกิจการเด็กและเยาวชน กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้ดำเนินโครงการ “เงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด” เพื่อสนับสนุนครอบครัวให้สามารถสนองตอบต่อความต้องการ
ขั้นพื้นฐานของเด็กกลุ่มเปราะบางที่สุดของประเทศไทย  และส่งเสริมการเข้าถึงบริการหลักในด้านต่าง ๆ เพื่อให้เด็กมีพัฒนาการที่สมวัยและพัฒนาศักยภาพได้อย่างเต็มที่ เป็นนโยบายของรัฐบาลที่มุ่งจัดสวัสดิการ
พื้นฐานแก่เด็กแรกเกิดให้ได้รับการเลี้ยงดูที่มีคุณภาพ รวมทั้งส่งเสริมให้เด็กมีพัฒนาการเหมาะสมตามวัย ซึ่งเริ่มโครงการตั้งแต่ปี 2558 ตามมติครม. ดังนี้
1.มติครม. เมื่อวันที่ 31 มี.ค. 58
            กลุ่มเป้าหมายเด็กที่อยู่นอกระบบประกันสังคมในครัวเรือนยากจนหรือครัวเรือนที่เสี่ยงต่อความยากจน (รายได้ครัวเรือนเฉลี่ย     ไม่เกิน 36,000 บาท ต่อคน ต่อปี) เป็นเด็กที่เกิดระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม 2558 - 30 กันยายน 2559 โดยอุดหนุนเงินรายละ 400 บาท ต่อเดือน เป็นเวลา 1 ปี เริ่มจ่ายเงินอุดหนุนตั้งแต่ ปีงบประมาณ 2559 
2.มติครม.เมื่อวันที่ 22 มี.ค. 59
            ให้ขยายเวลาการให้เงินอุดหนุน ตั้งแต่แรกเกิดจนถึงอายุ 3 ปี และเพิ่มวงเงินเป็น 600 บาท ต่อคน ต่อเดือน
3.มติครม.เมื่อวันที่ 7 พ.ย. 60
             ยกเลิกเงื่อนไขผู้มีสิทธิที่ต้องไม่เป็นผู้อยู่ในระบบประกันสังคม เริ่มตั้งแต่ปีงบประมาณ 2561 รวมทั้งให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์พิจารณาความเหมาะสมเชื่อมโยงข้อมูลผู้มีรายได้น้อยตามโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการของรัฐ นํามาใช้เป็นเกณฑ์กําหนดคุณสมบัติผู้เข้าร่วมโครงการและปรับปรุง กระบวนการตรวจสอบและรับรองสิทธิ
4.มติครม.เมื่อวันที่ 26 มี.ค. 62
             ขยายระยะเวลาให้เงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กตั้งแต่แรกเกิด - 6 ปี และขยายฐานรายได้ของกลุ่มเป้าหมายไม่เกิน 100,000 บาท ต่อคน ต่อปี
เปิดหลักเกณฑ์ ผู้ได้รับสิทธิเด็กแรกเกิดที่มีสิทธิ
•    มีสัญชาติไทย (พ่อแม่มีสัญชาติไทย หรือพ่อหรือแม่มีสัญชาติไทย)
•    เด็กที่มีอายุต่ำกว่า 6 ปี
•    อาศัยอยู่กับผู้ปกครองที่อยู่ในครัวเรือนที่มีรายได้น้อย
•    ไม่อยู่ในสถานสงเคราะห์ของหน่วยงานของรัฐ หรือเอกชน
ผู้ปกครองที่มีสิทธิลงทะเบียน
•    มีสัญชาติไทย
•    เป็นบุคคลที่รับเด็กแรกเกิดไว้ในความอุปการะ
•    เด็กแรกเกิดต้องอาศัยรวมอยู่ด้วย
•    อยู่ในครัวเรือนที่มีรายได้น้อย  คือ สมาชิกครัวเรือนมีรายได้เฉลี่ยไม่เกิน 100,000 บาท ต่อคน ต่อปี
การสมัครเงินอุดหนุนบุตร 2566 
•    กรุงเทพมหานคร ติดต่อได้ที่สำนักงานเขต
•    เมืองพัทยา ติดต่อได้ที่ศาลาว่าการเมืองพัทยา
•    ส่วนภูมิภาค ติดต่อได้ที่องค์การบริหารส่วนตำบลหรือเทศบาล
การจ่ายเงินเข้าบัญชีธนาคาร
     บัญชีธนาคารที่ใช้สำหรับแนบเอกสารเพื่อยื่นลงทะเบียนในโครงการ ประเภทบัญชีเงินฝากจะต้องเป็น ออมทรัพย์ สะสมทรัพย์ เผื่อเรียก กระแสรายวัน เท่านั้น ซึ่งจะดำเนินการจ่ายเงินผ่านอิเล็กทรอนิกส์ (Payment) โดยมีทั้งหมด 3 ธนาคาร ดังนี้
•    ธนาคารกรุงไทย (บัญชีออมทรัพย์)
•    ธนาคารออมสิน (บัญชีเงินฝากเผื่อเรียก)
•    ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.) (บัญชีเงินฝากออมทรัพย์)
     ทั้งนี้ นโยบายโครงการเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิดเป็นโครงการที่ทุกรัฐบาลควรให้สนับสนุนด้านงบประมาณอย่างเพียงพอ เพื่อสร้างโอกาส และขยายสิทธิของเด็กที่ไปสู่เด็กไทยทุกคน ที่อายุต่ำกว่า 6 ปี ให้ได้รับเงินอุดหนุนฯ ถ้วนหน้า เพื่อให้เด็กได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีและอยู่ร่วมกันในสังคมโดยข้ามผ่านความเหลื่อมล้ำทางสังคมอีกด้วย
 


Line

คะแนนโหวต :
StarStarStarStarStar