กรมควบคุมโรค ห่วงเยาวชนไทย เสี่ยงติดเชื้อฝีดาษวานร หลังพบเดือน ส.ค.66 ติดเพิ่ม 16 ราย แนะงดมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ปลอดภัยหรือกับคนแปลกหน้า

 

กรมควบคุมโรค ห่วงเยาวชนไทย เสี่ยงติดเชื้อฝีดาษวานร หลังพบเดือน ส.ค.66 ติดเพิ่ม 16 ราย แนะงดมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ปลอดภัยหรือกับคนแปลกหน้า

          กรมควบคุมโรค เผยสถานการณ์ระบาดโรคฝีดาษวานรในประเทศไทย ว่ายังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในขณะนี้เริ่มพบผู้ป่วยในกลุ่มเยาวชนแล้ว โดยผู้ป่วยส่วนใหญ่ติดเชื้อ
จากการมีเพศสัมพันธ์คนแปลกหน้าที่ไม่ทราบประวัติ หรือมีคู่นอนมากกว่าหนึ่งคน  โดยจากเดิมที่ระยะแรกของการแพร่เชื้อฝีดาษวานรในประเทศไทยกลุ่มเสี่ยงเป็นชายวัยทำงานแต่
ในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา เริ่มพบเยาวชนติดเชื้อฝีดาษวานรเพิ่มมากถึง 16 ราย มีการยืนยันผู้ป่วยฝีดาษวานรรายหนึ่งเป็นนักเรียนชาย อายุ 16 ปี  ในพื้นที่รับผิดชอบของสำนักงาน
ป้องกันควบคุมโรคที่ 6 จังหวัดชลบุรี ที่ผู้ป่วยเยาวชนเริ่มป่วยเมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2566 เข้ารับการรักษาแบบผู้ป่วยในเมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2566 ด้วยอาการตุ่มน้ำใสขึ้นตามร่างกาย
ร่วมกับอวัยวะเพศบวมอักเสบ ตรวจพบเชื้อฝีดาษวานร มีประวัติเสี่ยง ผู้ป่วยมีเพศสัมพันธ์กับหลายคน โดยมีการดำเนินการติดตามอาการของผู้สัมผัสเสี่ยงสูง ซึ่งเป็นผู้สัมผัสร่วมบ้าน
จนครบ 21 วันนับตั้งแต่วันสัมผัสผู้ป่วยวันสุดท้าย ยังไม่พบผู้ป่วยในครัวเรือน
            สำหรับสถานการณ์ล่าสุดของโรคฝีดาษวานรในประเทศไทย ข้อมูลจากกรมควบคุมโรค  ณ วันที่ 31 สิงหาคม 2566 ว่าผู้ป่วยรวม 316 ราย (เสียชีวิต 1 รายเป็นผู้ป่วย
ภูมิคุ้มกันบกพร่อง) เป็นกลุ่มชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชายมากถึง 271 ราย (ร้อยละ 85.8) และมีผู้ติดเชื้อเอชไอวี 143 ราย (ร้อยละ 45.3) มีสัญชาติไทย 277 ราย ชาวต่างชาติ 36 ราย
ไม่ระบุ 3 ราย ส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร (198 ราย) จังหวัดชลบุรี (22 ราย) นนทบุรี (17 ราย) และสมุทรปราการ (12 ราย) ผู้ป่วย  ส่วนใหญ่อายุ 30-39 ปี จำนวน
152 ราย รองลงมาอายุ 20-29 ปี จำนวน 85 ราย กลุ่มเยาวชน อายุ 15-24 ปี จำนวน 28 รายซึ่งกลุ่มเยาวชน มีความเสี่ยงติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว สถานการณ์ 4 เดือนย้อนหลังพบ
การระบาดอย่างต่อเนื่อง ในเดือนพฤษภาคม 2566 ได้รับรายงานผู้ป่วย 22 ราย, มิถุนายน 48 ราย, กรกฎาคม 80 ราย และเดือนสิงหาคมได้รับรายงานเพิ่มอีก 145 ราย เกือบทั้งหมดเป็น
คนไทย และรับเชื้อภายในประเทศ ในจำนวนนี้มีรายงานพบผู้ป่วยฝีดาษวานรเสียชีวิต 1 รายเป็นผู้ติดเชื้อเอชไอวีที่มีอาการรุนแรงและติดเชื้อฉวยโอกาสแทรกซ้อน
        กรมควบคุมโรคจึงได้มีการย้ำเตือนเยาวชนเเละกลุ่มชายรักชายให้งดเว้นการมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ปลอดภัย เช่น ไม่สัมผัสใกล้ชิดเนื้อเเนบเนื้อ หรือกอดจูบกับผู้ที่ไม่รู้จัก เวลานี้สถานการณ์
ผู้ป่วยในไทยเริ่มแพร่ระบาดจากกลุ่มวัยทำงาน วัยรุ่น ไปสู่กลุ่มที่อายุน้อยลงได้แก่เยาวชนวัยเรียนเเล้ว ขอให้ตระหนักว่า เยาวชนต้องป้องกันตัวอย่างมีความรู้ความเข้าใจเพื่อลดความเสี่ยงต่อ
การติดโรค โดยสังเกตรอยโรค อาการเเสดง เเละสังเกตดูผิวหนังตามร่างกายของคู่นอน ว่ามีผื่นแบนหรือนูน ตุ่มน้ำใส ตุ่มหนองเเละตกสะเก็ด  มักพบตามอวัยวะเพศรอบทวารหนัก แขน ขา
รือฝ่ามือฝ่าเท้า ลำตัว ศีรษะ ก่อนหน้าจะเกิดอาการมักมีไข้ร่วมกับอาการอื่น เช่น ต่อมน้ำเหลืองบวมโต เจ็บคอ ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ปวดหลัง 
       สำหรับแนวทางการรักษานั้น ประเทศไทยได้รับการสนับสนุนยา Tecovirimat (ชื่อการค้า TPOXX) จากองค์การอนามัยโลกให้นำมาใช้ในกรณีฉุกเฉินเป็นยาที่มีฤทธิ์
ฆ่าเชื้อไวรัสกลุ่ม Poxvirus เพื่อใช้รักษาผู้ป่วยยืนยันที่มีอาการมากและแพทย์รับเข้ารักษาในโรงพยาบาลเท่านั้น
       ทั้งนี้ หากสงสัยติดเชื้อฝีดาษวานร กรมควบคุมโรคแนะนำให้ไปพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยและรักษา พร้อมกับแยกตัวออกจากสมาชิกในครอบครัว ที่พัก หรือ สถานที่ทำงาน ไม่รับ
ประทานดื่มน้ำด้วยภาชนะร่วมกับผู้อื่น สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา  ช่วงป่วย การรักษาความสะอาดทำความสะอาดเสื้อผ้าเครื่องนอนเครื่องใช้แยก ใช้สุขาแยก หรือ ทำความสะอาดด้วย
การเช็ดน้ำยาทำลายเชื้อกลุ่มสารซักฟอก เช่น ไฮโปคลอไรต์ น้ำสบู่ เป็นต้น  และหากสงสัยมีประวัติเสี่ยง ให้รีบเข้ารับการตรวจรักษาและแจ้งข้อมูลความเสี่ยงแก่บุคลากรทางการแพทย์และ
สาธารณสุข เพื่อประกอบการวินิจฉัยโรค โดยเฉพาะกลุ่มผู้ป่วยที่มีภาวะภูมิคุ้มกันต่ำเช่น ผู้ติดเชื้อเอชไอวี สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่  สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร. 1422 หรือ
ถานพยาบาล/สำนักงานสาธารณสุขใกล้บ้าน 

 


Line

คะแนนโหวต :
StarStarStarStarStar