ประเด็นจากศูนย์ดำรงธรรม และศูนย์บริการข้อมูลภาครัฐเพื่อประชาชน ตู้ ปณ.1111
ครั้งที่ 37 วันที่ 20 ตุลาคม 2564

จังหวัดศรีสะเกษ  เรื่อง ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีมีการทำคันดินกั้นทางน้ำสาธารณะทำให้น้ำท่วมขังในไร่นาประชาชน

1. ความเป็นมา   ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดศรีสะเกษ ได้รับเรื่องร้องเรียนผ่านสื่อสังคมออนไลน์ Facebook โดยกล่าวอ้างว่า มีการทำคันดินกั้นทางน้ำสาธารณะบริเวณร่องกุดขี้นาค ตำบลน้ำคำ อำเภอเมืองศรีสะเกษ จังหวัดศรีสะเกษ  ซึ่งเป็นทางน้ำไหลที่ไหลจากที่สูงลงสู่ที่ต่ำตามธรรมชาติ การทำคันดินดังกล่าวทำให้น้ำท่วมขังในไร่นาประชาชน ทำให้ได้รับความเดือดร้อนข้าวเน่าเสียหาย จึงประสงค์ให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงและดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ 
2. ผลการดำเนินงาน    วันที่ 6 ตุลาคม 2564 เวลา 15.00 น. นายวัฒนา พุฒิชาติ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ มอบหมายให้ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดศรีสะเกษ ร่วมกับอำเภอเมืองศรีสะเกษ และเทศบาลตำบลน้ำคำ ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง จากการลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงปรากฏว่า เทศบาลตำบลน้ำคำ เป็นผู้ดำเนินการ  ทำคันดินกั้นทางน้ำบริเวณร่องกว้าง เพื่อกั้นน้ำที่ไหลมาจากห้วยสำราญไม่ให้ไหลเข้าท่วมที่พักอาศัย ไร่นาของประชาชนจำนวนมาก ในเขตเทศบาลตำบลน้ำคำ ที่อยู่ฝั่งตรงข้าม (กุดขี้นาค) ซึ่งบริเวณเหนือจุดทำคันกั้นน้ำเป็นจุดเชื่อมระหว่างกุดร่องกว้างซึ่งเป็นหนองน้ำสาธารณะกับกุดขี้นาค เพื่อลดและบรรเทาความเดือดร้อน  จากภาวะน้ำท่วมบริเวณดังกล่าว เทศบาลตำบลน้ำคำได้ประสานสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดศรีสะเกษ ดำเนินการใช้เครื่องสูบน้ำ จำนวน 2 เครื่อง สูบน้ำบริเวณร่องกว้าง ซึ่งเป็นบริเวณที่อยู่เหนือร่องกุดขี้นาคออกให้ได้มากที่สุด เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำไหลลงไปท่วมไร่นา และลดความเดือดร้อนของประชาชน ทั้งนี้ ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดศรีสะเกษ ได้ขอความร่วมมือเทศบาลตำบลน้ำคำ ในการเฝ้าระวัง ติดตามสถานการณ์น้ำ และสร้างการรับรู้ในส่วนการดำเนินงานของเทศบาลตำบลน้ำคำให้ราษฎรในพื้นที่ทราบ
3. ประโยชน์ที่ได้รับ   ประชาชนได้รับการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อน
4. รายชื่อผู้ติดต่อ     นายบุญชวัฒน์ ปัญช์ณ์ญาแดง  ตำแหน่ง ผู้อำนวยการกลุ่มงานศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดศรีสะเกษ